การคายประจุของแบตเตอรี ในระหว่างการจัดเก็บรักษา

แบตเตอรีคืออุปกรณ์ที่ใช้ในการเก็บรักษาประจุไฟฟ้า เพื่อใช้ในการสตาร์ติดเครื่องยนต์ ทำให้ประจุไฟฟ้าก็จะมีการลดลง แต่เครื่องยนต์เมื่อมีการทำงาน ก็จะมีการผลิตกระแสไฟฟ้า ชาร์จกลับเข้าไปเก็บในแบตเตอรีตามเดิม แต่ในกรณีที่แบตเตอรีไม่ได้มีการใช้งาน แบตเตอรีจะมีการคายประจุหรือไม่ ซึ่งคำตอบนี้สามารถตอบออกมาได้เลยว่า ในกรณีที่แบตเตอรีที่ไม่ได้มีการใช้งานจะมีการคายประจุของแบตเตอรีออกมาในระหว่างการจัดเก็บ ซึ่งอายุการเก็บรักษาของแบตเตอรี ภายใต้สภาวะอุณหภูมิในพื้นที่ ส่งผลต่อการคายประจุไฟของแบตเตอรี โดยผลกระทบอุณหภูมิของอุณหภูมิสามารถแบ่งออกมาเป็น 2 หัวข้อหลัก ๆ คือ

รูป : อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียล

1.) ถ้าอุณหภูมิการจัดเก็บแบตเตอรี่มี อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส แบตเตอรีจะสูญเสียกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรีไปประมาณ 3% ต่อเดือน 

เช่น แบตเตอรี ประสิทธิภาพ 100% หากมีการเก็บรักษาไว้ในห้อง ที่มีอุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 6 เดือน แบตเตอรี จะเหลือประสิทธิภาพ ประมาณ 80% เป็นต้น

รูป : อุณหภูมิมากกว่า 30 องศาเซลเซียล

2.) ถ้าอุณหภูมิการจัดเก็บแบตเตอรีมี อุณหภูมิมากกว่า 30 องศาเซลเซียส แบตเตอรีจะสูญเสียกระแสไฟฟ้าในแบตเตอรีไปประมาณ 10% ต่อเดือน

เช่น แบตเตอรี ประสิทธิภาพ 100% หากมีการเก็บรักษาไว้ในห้อง ที่มีอุณหภูมิมากกว่า 30 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 6 เดือน แบตเตอรี่ จะเหลือประสิทธิภาพ ประมาณ 40% เป็นต้น (ซึ่งแบตเตอรีจะไม่ประสิทธิภาพสำหรับการใช้งานได้)

คำแนะนำ

รูป : การประจุกระแสไฟฟ้าเข้าแบตเตอรี

แบตเตอรี SpeedMate จะคิดเป็น 100% ภายใน 6 เดือนหลังจากที่ผู้ใช้งานซื้อ หากต้องการเก็บแบตเตอรีไว้เป็นเวลานาน หลังจากนั้นให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

เพื่อให้แบตเตอรี่ลดลง ไม่เกินขีดจำกัดความปลอดภัยของแบตเตอรี่

• ถ้าอุณหภูมิของห้องที่ใช้เก็บรักษาแบตเตอรีอยู่ในช่วง ระหว่าง -15°C ถึงต่ำกว่า 30°C ให้ทำการชาร์จแบตเตอรีอย่างน้อยทุก ๆ 6 เดือน
• ถ้าอุณหภูมิของห้องที่ใช้เก็บรักษาแบตเตอรีอยู่ในช่วง ระหว่าง 30°C ถึง 45°C ให้ทำการชาร์จแบตเตอรีทุก ๆ 3 เดือน

หมายเหตุ

การเก็บรักษาแบตเตอรีเพื่อคงประสิทธิภาพการใช้งานอย่างสูงสุด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำในการชาร์จประจุไฟเข้าแบตเตอรี ตามช่วงเวลาที่ระบุอย่างเคร่งครัด